[ภูมิทัศน์เมืองล่างจง สุดยอดฮวงจุ้ยแห่งแผ่นดินมังกร]
(ต่อจากตอนที่แล้ว)
หลังจากเยี่ยมชมศาลเตียวหุยแล้ว พวกเราออกจากเมืองเก่าล่างจง เดินทางข้ามแม่น้ำเจียหลิง ขึ้นไปบนภูเขาเจดีย์ขาว อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง
เจดีย์ขาวสร้างอยู่บนเขา ใกล้ๆ กันมีจุดชมทิวทัศน์ มองลงไปเบื้องล่างเห็นเมืองล่างจงโดยรอบ มีแม่น้ำล้อม ลักษณะเหมือนอักษรโรมันรูปตัว "Ω" สร้างได้สอดรับกับหลัก หยิน-หยาง (ดูภาพประกอบนะครับว่างามขนาดไหน)
ในโปรแกรมของ SBA บรรยายว่า เมืองล่างจงนี้...
"ด้านเหนือเป็นภูเขาเต่าดำ ด้านใต้เป็นดอยนกแดง ตะวันออกเป็นเทือกเขามังกรเขียว และตะวันตกเป็นเขาโดดเสือขาว"
เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบตามตำราฮวงจุ้ยทุกประการ!!
[เจดีย์ขาว]
[พระพุทธรูปโบราณ สังเกตมือขวาขององค์พระนะครับ]
จากนั้น เราไปนมัสการหลวงพ่อโต พระพุทธรูปแกะสลักหินเก่าแก่ สร้างก่อนหลวงพ่อโตเล่อซานถึง 200 ปี เป็นปาง "ชูสองนิ้ว" ดูแปลกตามาก (โปรดดูภาพประกอบ) ก่อนจะไปรับประทานอาหารกลางวันกัน
ร้านอาหารที่เราไปทานมื้อนี้อยู่ในฮอลล์ใหญ่ ด้านหน้าอาคารมีลานขนาดยักษ์ ตรงกลางลานมีรูปปั้นศีรษะเตียวหุยหน้าเข้มตั้งเด่นเป็นสง่า สองฝั่งมีรูปปั้นศีรษะนายทหารจ๊กก๊กพร้อมภาพประกอบแสดงเรื่องราวต่างๆ อีกอาคารหนึ่งข้างๆ กันคือ "ศูนย์แสดงเนื้อเตียวหุย"
ร้านอาหารที่เราไปทานมื้อนี้อยู่ในฮอลล์ใหญ่ ด้านหน้าอาคารมีลานขนาดยักษ์ ตรงกลางลานมีรูปปั้นศีรษะเตียวหุยหน้าเข้มตั้งเด่นเป็นสง่า สองฝั่งมีรูปปั้นศีรษะนายทหารจ๊กก๊กพร้อมภาพประกอบแสดงเรื่องราวต่างๆ อีกอาคารหนึ่งข้างๆ กันคือ "ศูนย์แสดงเนื้อเตียวหุย"
[ศูนย์แสดงเนื้อเตียวหุย ข้างในมีผลิตภัณฑ์เนื้อเตียวหุยขายหลากหลายชนิด]
หลังทานข้าว พวกเราเดินทางต่อไปยัง "วังสวรรค์เทียนกง" สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง หลี่ฉุนเฟิง และ หยวนเทียนกัง สองนักพยากรณ์ซึ่งเป็นเกลอกัน
ในส่วนของ หยวนเทียนกัง เขาเป็น นักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ กวี ฯลฯ ศึกษาตำราโจวอี้ (อี้จิง) จนแตกฉาน ว่ากันว่าเขาเคยไปที่บ้านของบูเช็คเทียนตั้งแต่นางยังเด็ก ในเวลานั้นบูเช็คเทียนแต่งตัวเป็นเด็กผู้ชาย
เมื่อซินแสหยวนพบเด็กน้อยจอมห้าว เขาถึงกับเอ่ยปากขึ้นมาว่า ... เสียดายที่เป็นเด็กผู้ชาย มิเช่นนั้นอาจได้เป็นถึงฮ่องเต้
เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ประการใด เพราะต้องไม่ลืมว่าคนยิ่งใหญ่จำนวนมาก โดยเฉพาะพวกฮ่องเต้หรือขุนศึกดังๆ ล้วนมีเรื่องราวปาฏิหาริย์ตอนเกิดหรือสมัยยังเด็กเพื่อเสริมสร้างบารมีด้วยกันทั้งนั้น
ผลงานชิ้นเอกของหยวนเทียนกังและหลี่ฉุนเฟิง คือหนังสือ ทุยเป้ยถู (推背图) เนื้อหาเป็นบทกวีพร้อมภาพพยากรณ์จำนวน 60 ภาพ หลายภาพถูกมองว่า (ย้ำว่า "ถูกมองว่า") สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จนหนังสือเล่มนี้ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับหนังสือของนอสตราดามุส
บ้างก็ว่า ฝรั่งมี "นอสตราดามุส" จีนมี "หยวนเทียนกัง"
เมื่อซินแสหยวนพบเด็กน้อยจอมห้าว เขาถึงกับเอ่ยปากขึ้นมาว่า ... เสียดายที่เป็นเด็กผู้ชาย มิเช่นนั้นอาจได้เป็นถึงฮ่องเต้
[หยวนเทียนกัง (ซ้าย) และ หลี่ฉุนเฟิง (ขวา)]
เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ประการใด เพราะต้องไม่ลืมว่าคนยิ่งใหญ่จำนวนมาก โดยเฉพาะพวกฮ่องเต้หรือขุนศึกดังๆ ล้วนมีเรื่องราวปาฏิหาริย์ตอนเกิดหรือสมัยยังเด็กเพื่อเสริมสร้างบารมีด้วยกันทั้งนั้น
ผลงานชิ้นเอกของหยวนเทียนกังและหลี่ฉุนเฟิง คือหนังสือ ทุยเป้ยถู (推背图) เนื้อหาเป็นบทกวีพร้อมภาพพยากรณ์จำนวน 60 ภาพ หลายภาพถูกมองว่า (ย้ำว่า "ถูกมองว่า") สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จนหนังสือเล่มนี้ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับหนังสือของนอสตราดามุส
บ้างก็ว่า ฝรั่งมี "นอสตราดามุส" จีนมี "หยวนเทียนกัง"
[ไกด์แอน ธันวา น้องชายร่วมสาบานในสวนท้อของผม ถ่ายกับภาพพยากรณ์บนแผ่นหิน]
ไม่ไกลจากวังสวรรค์เทียนกง เป็นสวนซึ่งมีภาพพยากรณ์ของหยวนเทียนกังและหลี่ฉุนเฟิงแกะสลักไว้บนแผ่นหินโดยรอบ โชคดีที่คณะของเรามี เหล่าซือคล่อง ศิรประภาธรรม "มัคคุเทศก์ป้ายทอง" ผู้รอบรู้ มานำชมอีกเช่นเคย โดยเหล่าซือได้อธิบายความในหลายๆ ภาพอย่างละเอียดตามแต่เวลาจะอำนวย
ในบรรดาภาพทั้ง 60 ภาพ มีบางภาพยังเป็นที่ถกเถียงกัน บางภาพยังไม่มีใครถอดรหัสได้ ผมได้ทราบจาก "ไกด์แอน" ธันวา น้องชายร่วมสาบานในสวนท้อของผมว่า เหล่าซือสนุกกับภาพพยากรณ์เหล่านี้มาก และสามารถ "แกะ" ความหมายออกมาได้หลายต่อหลายภาพ
ขอยกตัวอย่างภาพที่ดังที่สุดภาพหนึ่งนะครับ (ดูภาพประกอบด้านบน) เป็นส้มหลายผลอยู่ในถาด นับรวมแล้วได้ 21 ผล ที่น่าสนใจคือ หนึ่งในนั้นเป็นส้มที่ไม่มี "ก้าน"
หลายคนตีความว่า ส้มทั้ง 21 ผล หมายถึงฮ่องเต้ราชวงศ์ถัง 21 พระองค์ ส่วนส้มผลที่ไม่มีก้าน หมายถึง "บูเช็คเทียน" ฮ่องเต้หญิงองค์เดียวของจีน
(บูเช็คเทียนได้ขึ้นครองบัลลังก์มังกรต่อจากถังรุ่ยจง ฮ่องเต้องค์ที่ 5 ของราชวงศ์ถัง ผู้เป็นโอรสของนางเอง แต่นางเปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็น "โจว" ก่อนจะเปลี่ยนกลับเป็นราชวงศ์ถังหลังยุคของนาง)
หลายคนตีความว่า ส้มทั้ง 21 ผล หมายถึงฮ่องเต้ราชวงศ์ถัง 21 พระองค์ ส่วนส้มผลที่ไม่มีก้าน หมายถึง "บูเช็คเทียน" ฮ่องเต้หญิงองค์เดียวของจีน
(บูเช็คเทียนได้ขึ้นครองบัลลังก์มังกรต่อจากถังรุ่ยจง ฮ่องเต้องค์ที่ 5 ของราชวงศ์ถัง ผู้เป็นโอรสของนางเอง แต่นางเปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็น "โจว" ก่อนจะเปลี่ยนกลับเป็นราชวงศ์ถังหลังยุคของนาง)
[ภาพพยากรณ์ที่ 45 เป็นภาพที่ผมข้องใจที่สุด
อยากทราบความนัยที่ซ่อนอยู่]
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาภาพแกะสลัก 60 ภาพ มีภาพหนึ่งซึ่งผมฉงนสงสัยถึงความหมายของมันเป็นอย่างยิ่ง..
ภาพนี้มีคนอยู่สองคน ลักษณะเหมือนจะพุ่งหอกหรืออาวุธบางอย่างไปยัง "พระอาทิตย์" ผมแอบนึกในใจว่ามันจะสื่อความหมายดังที่ผมคิดหรือไม่ แต่ก็ไม่กล้าสรุป
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงสอบถามไปยังเหล่าซือคล่อง รบกวนให้ท่านช่วยตีความให้ เหล่าซือท่านก็เมตตา ช่วยแปลให้แบบคำต่อคำ และถอดรหัสหาความนัยที่แฝงไว้ให้ด้วย
สิ่งที่ผมได้ยินจากเหล่าซือ คล้ายคลึงกับที่ผมคิดไว้อย่างยิ่ง แต่ละถ้อยคำในบทกวีนั้นน่าประหวั่นพรั่นพรึงอยู่ไม่น้อย
แต่ได้ยินจากไกด์ท้องถิ่นว่า คนจีนเขาถือกันว่าจะไม่พยายามแสวงหาความหมายจากภาพพยากรณ์เหล่านี้ไปในอนาคต เพราะหากรู้มากไปจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
ความหมายแฝงของภาพที่ 45 นี้ก็เช่นกัน ผมคิดว่าพูดไปแล้วน่าจะ "เสีย" มากกว่า "ดี" และไม่แน่ว่าอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิดก็ได้
ด้วยเหตุนี้ จึงขออนุญาตเก็บเอาไว้กับตัวเองไม่กล้าบอกใคร...ตลอดกาล
ภาพนี้มีคนอยู่สองคน ลักษณะเหมือนจะพุ่งหอกหรืออาวุธบางอย่างไปยัง "พระอาทิตย์" ผมแอบนึกในใจว่ามันจะสื่อความหมายดังที่ผมคิดหรือไม่ แต่ก็ไม่กล้าสรุป
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงสอบถามไปยังเหล่าซือคล่อง รบกวนให้ท่านช่วยตีความให้ เหล่าซือท่านก็เมตตา ช่วยแปลให้แบบคำต่อคำ และถอดรหัสหาความนัยที่แฝงไว้ให้ด้วย
สิ่งที่ผมได้ยินจากเหล่าซือ คล้ายคลึงกับที่ผมคิดไว้อย่างยิ่ง แต่ละถ้อยคำในบทกวีนั้นน่าประหวั่นพรั่นพรึงอยู่ไม่น้อย
แต่ได้ยินจากไกด์ท้องถิ่นว่า คนจีนเขาถือกันว่าจะไม่พยายามแสวงหาความหมายจากภาพพยากรณ์เหล่านี้ไปในอนาคต เพราะหากรู้มากไปจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
ความหมายแฝงของภาพที่ 45 นี้ก็เช่นกัน ผมคิดว่าพูดไปแล้วน่าจะ "เสีย" มากกว่า "ดี" และไม่แน่ว่าอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิดก็ได้
ด้วยเหตุนี้ จึงขออนุญาตเก็บเอาไว้กับตัวเองไม่กล้าบอกใคร...ตลอดกาล
เดี๋ยวในตอนหน้า เราจะเดินทางกลับเข้าสู่เฉิงตู หรือเมือง "เซงโต๋" เมืองหลวงของจ๊กก๊ก ซึ่งเป็นปลายทางสุดท้ายของปฏิบัติการ "ตามรอยสามก๊ก" โปรดติดตามด้วยใจระทึกเถิด
No comments:
Post a Comment
คิดยังไงกับบทความของผม แบ่งปันกันได้ครับ เสร็จแล้วขอตรวจสอบสักครู่ เพื่อป้องกันพวก Spam แล้วคอมเม้นท์จะปรากฏเร็วที่สุดคร้าบบบ